Gawdawpalin Temple (ကောတော့ပလ္လင်ဘုရား)

Gawdawpalin Pahto เริ่มก่อสร้างในช่วงรัชสมัยของ Sithu II (หรือ Narapatisithu, ค.ศ. 1174–1211) และแล้วเสร็จในรัชสมัยของ Nadaungmya (หรือ Htilominlo, ค.ศ. 1211–1234) วัดนี้เป็นหนึ่งในวัด ที่ใหญ่ที่สุดใน Bagan (เป็นวัดที่สูงเป็นอันดับสองของ Bagan) และมีลักษณะที่สง่างามโดดเด่น

ว่ากันว่าชื่อ “Gawdawpalin” มีที่มา 2 แนวคิด ซึ่ง Paul Strachan นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้าน Bagan แปลว่า “บัลลังก์บนแท่นที่ได้รับการเคารพบูชา” แนวคิดหนึ่งคือวัดนี้ใช้ในการประกอบพิธี เคารพบรรพบุรุษของราชวงศ์ อีกแนวคิดหนึ่งที่เป็นตำนานเล่าว่า พระเจ้าสีธูทรงมีความเย่อหยิ่ง และสร้างความลำบากมากจากการก่อสร้าง Sulamani Guphaya ทำให้พระภิกษุผู้ทรงคุณ Panthagu Mahathera ลี้ภัยไปยังศรีลังกานานถึง 6 ปีเพื่อประท้วง กระทั่งกษัตริย์เชิญท่านกลับมาและถวายเกียรติ ณ จุดที่ปัจจุบันเป็นที่ตั้งวัดนี้


Gawdawpalin เป็นวัดสองชั้นขนาดใหญ่ หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ตั้งอยู่บนฐานเตี้ยล้อมด้วยกำแพง และมีประตูเข้า 4 ด้าน อยู่ทางเหนือของพิพิธภัณฑสถานโบราณคดีปัจจุบัน โครงสร้างก่ออิฐเสริมด้วยหิน ขนาดภายนอก 213 x 170.5 ฟุต (65 x 52 เมตร) ชั้นล่างมีแกนกลางตันเกือบ 92 x 93.3 ฟุต (27.99 x 28.45 เมตร) และโถงทางเดินกว้างราว 7 ฟุต (2.20 x 2.19 เมตร)

ห้องบูชาทางเข้าชั้นล่างขนาด 23 x 38.5 ฟุต (6.95 x 11.72 เมตร) ส่วนแกนกลางชั้นสอง มีขนาดเล็กกว่าครึ่งหนึ่ง มีห้องบูชาและโถงทางเข้าอีกแห่ง ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในสถาปัตยกรรม Bagan ที่ห้องบูชาหลักตั้งอยู่บนชั้นสอง มีการใช้โค้งแบบ barrel และ diaphragm vault ครอบห้องบูชาและโถงทางเดิน

วัดมีระเบียงชั้นล่างสามชั้นและชั้นบนสี่ชั้น ด้านบนสุดเป็นยอดเจดีย์ฐานสี่เหลี่ยม ยอดทรงกรวย และฉัตร (hti) สูงถึง 180 ฟุต (55 เมตร) หรืออาจถึง 200 ฟุต (60 เมตร) ตามบางข้อมูล แต่วัดนี้ตั้งอยู่ใกล้ จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว ปี ค.ศ. 1975 ยอดเจดีย์พังทลาย ส่วนบนได้รับความเสียหายอย่างหนัก

มีการซ่อมแซมระหว่างปี ค.ศ. 1976–1982 และในปี ค.ศ. 1991–1992 ได้มีการเสริมความแข็งแรง โดยสร้างยอดเจดีย์ขึ้นใหม่ด้วยโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กแบบกลวง ปัจจุบันยังคงมีปูนปั้นดั้งเดิม หลงเหลืออยู่ประมาณ 40% ของผิวภายนอก

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *